ประวัติอย่างย่อของผม

ประวัติอย่างย่อของผม

ประวัติอย่างย่อของผม

ผมเป็นชาวสวีดิช อาศัยอยู่ในประเทศไทย เป็นนักสิ่งแวดล้อม และน้อมรับเอาพุทธศาสนาและการวิ่งเป็นวิถีชีวิตของผมที่นี่ ผมได้จัดตั้งกลุ่มการกุศลเพื่อสิ่งแวดล้อมขึ้น ชื่อว่ากลุ่ม กรีน พัทยา (Green Pattaya ) และผมยังเป็นนักระดมทุนเพื่อการกุศลและสิ่งดีๆอื่นๆ

ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของผมเมื่อไม่นานนี้

ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของผมเป็นเหมือนฝันที่กลายเป็นจริง ผมมีความตั้งใจจะวิ่งให้ทั่วประเทศไทยและสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องที่ผมวิ่งเพื่อรณรงค์ไปในขณะเดียวกัน  ซึ่งผมได้เริ่มวางแผนการวิ่งไว้แล้ว ผมมีทั้งเว็บไซท์และผู้ติดตาม และจะเริ่มวิ่งในเดือนมกราคม 2014.  www.facebook.com/Thailandrun.

ความสำเร็จล่าสุดของผมคือการได้เข้าร่วมวิ่งแข่งขันประจำปี พัทยา มาราธอน เป็นระยะทาง 42 กิโลเมตรในหน้าร้อน ซึ่งมันยอดเยี่ยมมาก ผมคาดว่าจะใช้เวลา 5.30 ชั่วโมง แต่หลังจากการวางแผนการวิ่งอย่างระมัดระวังและการฝึกหนัก ผมเข้าเส้นชัยในเวลา 4.12 ชั่วโมง ซึ่งไม่ใช่อันดับท้ายๆ ผมเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 192 จาก 731 ผมภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างมาก ผมได้อันดับที่  56 จาก 173 ของนักวิ่งในกลุ่มอายุเดียวกัน ได้วิ่งกับบุคคลมีชื่อเสียงอย่าง  Joseph Kariuki ซึ่งเป็นผู้ชนะในกลุ่มอายุของผม  โดยมี Weldon Kiruri เข้าเส้นชัยเป็นคนที่สอง  ไม่มีการจัดกลุ่มนักวิ่งชาวสวีดิชในการแข่งขันนี้ แต่ถ้ามีผมคงเป็นผู้ชนะ

(อันที่จริง ผมคิดว่าผมเป็นชาวสวีดิชคนเดียวที่วิ่งในการแข่งขันนี้)

ผมคิดว่าผมคงไม่สามารถทำได้ถ้าปราศจากการสนับสนุนของเพื่อนๆของผมใน ชมรมวิ่ง พัทยา   (Pattaya Running Club) ผมวิ่งร่วมกับพวกเขาทุกวัน และแม้เราจะไม่ได้คุยกันมากนักแต่เราก็เชื่อมถึงกันด้วยการวิ่ง

ผมเริ่มต้นมาวิ่งได้อย่างไร

ผมเริ่มต้นวิ่งเมื่อประมาณเก้าเดือนที่แล้ว เมื่อยิมที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ปิดตัวลง ผมเริ่มคิดถึงการออกกำลังก็เลยเริ่มวิ่ง เริ่มแรกเพียงวันละหนึ่งกิโลเมตร และเพิ่มเป็นสองกิโลเมตรและเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ  เมื่อผมเห็นว่าความอดทนของผมเพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน ผมก็ตระหนักว่านี่อาจจะเป็นบางสิ่งที่มีความหมายสำหรับผม  สองสามเดือนก่อนผมได้จัดตั้งการวิ่งแข่งขัน  ‘999 กม.จากภาคเหนือถึงภาคตะวันออกของไทย’ และจึงเริ่มฝึกฝนเพื่อการนี้ เมื่อผมเห็นว่ามีการแข่งขันมาราธอนผมจึงคิดว่าน่าจะลองดู

มันน่าทึ่งมากที่มีข้อมูลมากมายเหลือเกินบนอินเตอร์เน็ต  ผมเริ่มจากการรวบรวมเคล็ดลับที่พบได้จากเว็บไซท์ต่างๆ: อาหาร การเสริมสร้างความแข็งแรง การวางแผนการวิ่ง เป็นต้น  ผมเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วยการวิ่ง 30 กม. เป็นเวลา 14 วัน ในช่วงก่อนการวิ่งมาราธอนประมาณ 30 วันและลดลงหลังจากนั้น  ในสัปดาห์สุดท้ายผมทานคาร์โบไฮเดรตเยอะมากเพื่อเพิ่มพลังงาน ระหว่างการวิ่ง ผมทำตามคำแนะนำเรื่องการวางแผนการวิ่งอย่างไร และมันก็ได้ผลดีทีเดียว หลายคนที่วิ่งนำผมไปก่อนตอนเริ่มต้น ลดความเร็วลงกลายเป็นเดิน

ผมจึงวิ่งผ่านพวกเขาไปในระยะ 12 กม. สุดท้าย  มันแสดงให้เห็นว่าแม้แต่นักวิ่งมือใหม่ก็ทำเวลาดีในการแข่งได้ถ้ามีการวางแผนมาอย่างถูกต้อง

นี่คือสิ่งที่กระตุ้นให้ผมลงมือทำ

มันมาจากข้างใน ผมก็ไม่รู้จะอธิบายให้คนอื่นที่ไม่ได้รู้สึกอย่างเดียวกันให้เข้าใจได้อย่างไร ผมเป็นชาวพุทธ และผมเดาว่าบางส่วนข้างในผมคงเกิด ‘ตื่นรู้’  อย่างน้อยผมก็เริ่มเปิดตาเปิดใจ มันเหมือนกับมีสถานีกระจายเสียงอยู่ในหัวผม บอกให้ผมต้องทำอะไรสักอย่างกับปัญหาต่างๆในโลกนี้้ มันออกจะเป็นความรู้สึกเห็นแก่ตัว การให้เป็นเรื่องเห็นแก่ตัวที่สุดที่คุณสามารถทำได้ เพราะคุณจะได้รับกลับมามากมายเหลือเกิน ท่านดาไลลามะกล่าวไว้ว่า หากไม่มีผู้อื่นคอยช่วยเหลือ เราก็ไม่สามารถมีความสุขได้

นี่คือวิธีที่ผมรักษาสุขภาพ

ผมไม่เคยสูบบุหรี่หรือดื่มเหล้าเลยในชีวิตนี้ ซึ่งต้องขอบคุณคุณแม่ของผม ที่เลี้ยงผมมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ แม่ยังทำให้ผมเข้มแข็งที่จะต้านทานสิ่งไม่ดีที่ผ่านเข้ามาได้  เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ แนวทางคำสอนของศาสนาพุทธ มอบพลังในการปฏิเสธสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพ สอนให้ผมรู้ว่าไม่ว่าเราจะทานหรือทำอะไรมันจะมีผลตามมาเสมอ  ผมทานอาหารวันละห้าถึงหกมื้อต่อวัน ส่วนมากเป็นผักผลไม้และดื่มน้ำมากๆ มีเพียงวันเดียวในหนึ่งสัปดาห์ที่ผมจะทานอาหารตามปกติแต่เพราะว่าเราต้องไปร่วมงานเลี้ยงระดมทุน

เกือบทุกวันผมจะออกไปวิ่งหรือเดินไกล ซึ่งมันทำให้สมองปลอดโปร่งดีจริงๆ ร่างกายก็แข็งแรงและทำให้ผมเชื่อมต่อกับชุมชนที่ผมอาศัยอยู่ และผมพบผู้คนและสัตว์มากมายที่ต้องการความช่วยเหลือขณะที่ผมออกไปวิ่ง

คำแนะนำของผม

ยอมรับความตายและจงยอมรับด้วยว่าเวลาบนโลกนี้ของเรามีจำกัด สมองทำงานได้ดีมากเมื่อเรามองโลกในแง่ดี ทำให้เราเชื่อว่ายังมีพรุ่งนี้เสมอ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น

สื่อสังคมออนไลน์และแอพพลิเคชั่นใดบ้างที่คุณใช้

ผมใช้ Charity Mile app เพราะผมรักที่จะเป็นผู้ให้และเชื่อมต่อกับคนที่คิดเหมือนกัน และรู้สึกแข็งแรงในขณะเดียวกัน แต่แอพพลิเคชั่นแรกที่ผมใช้คือ Runkeeper และเริ่มใช้ Strava เมื่อสองสามเดือนก่อน เพราะผมพบผู้คนดีๆมากมายที่เว็บไซท์นี้  สำหรับสื่อสังคมออนไลน์ ผมใช้ Facebook เป็นประจำ ผมพยายามจะหาเวลาใช้ Twitter และ Instagram ให้มากกว่านี้แต่ไม่ค่อยมีเวลา ผมหวังว่าจะเริ่มต้น video blog การวิ่งของผม ให้เร็วที่สุดที่จะทำได้

นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมจึงออกกำลังกาย

ผมออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายคงความแข็งแรง ซึ่งจะทำให้ผมแข็งแรงพอจะสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ และผมก็ชอบที่จะรู้สึกแข็งแรงมีสุขภาพดีด้วย ผมอยากจะทิ้งรอยเท้าไว้ให้น้อยที่สุดเมื่อเวลาของผมหมดลง  ผมคิดว่าการวิ่งเป็นหนึ่งในหลายวิธีที่ไม่ต้องการการใช้น้ำปริมาณมหาศาลเพื่อเลี้ยงหญ้าให้เขียวเพื่อคุณ    จะตีลูกดีๆได้หรือต้องใช้น้ำมันหลายแกลลอนเพื่อให้พลังงานแก่เครื่องยนต์ คุณก็แค่ใส่รองเท้าที่หวังว่าจะทำจากวัสดุรีไซเคิลแล้วก็ออกไปวิ่ง ไม่ต้องมีเครื่องปรับอากาศ ไม่ต้องเป็นสมาชิก มีแค่ความเป็นอิสระ  ในแง่หนึ่ง การวิ่งเพื่อผู้อื่นก็เหมือนผมวิ่งเพื่อตัวเอง เพราะการให้นั้นเป็นความรู้สึกที่ดีจริงๆ นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมจึงจะวิ่ง 999 กม. ในเดือนมกราคมปีหน้า www.facebook.com/Thailandrun. www.thailandrun.org

Give a Comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.